top of page
ค้นหา

การฝังเข็มคืออะไร? มีที่มาที่ไปอย่างไร? มีกลไกทำงานยังไง? ได้ผลจริงหรอ?

  • รูปภาพนักเขียน: phangngatcmclinic
    phangngatcmclinic
  • 23 ต.ค. 2565
  • ยาว 4 นาที

อัปเดตเมื่อ 28 พ.ค.

รวบรวม พจ.กภ.วุฒิพรหม แสงนิกรเกียรติ

เรียบเรียง พจ.มุกหอม พัฒนพิชัย

พังงาคลินิกการประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีน

มาศึกษาที่มาที่ไปของการฝังเข็ม กลไกการทำงาน และการยอมรับผลการรักษาในทางวิทยาศาสตร์ปัจจุบันกันเถอะ...


การฝังเข็ม (Acupuncture) คืออะไร?

การฝังเข็มคือหนึ่งในวิธีการรักษาของแพทย์แผนจีน ที่ใช้เข็มแทงลงไปบนร่างกายผ่านชั้นผิวหนัง ชั้นเยื่อพังผืด(Fascia) กล้ามเนื้อ เยื่อหุ้มกระดูก เส้นประสาท ผ่านเนื้อเยื่อต่างๆของร่างกาย โดยอ้างอิงตามจุดฝังเข็มตามตำราจีนโบราณ หรือตามหลักทางกายวิภาคในยุคปัจจุบัน ขึ้นอยู่กับเทคนิคของแพทย์แผนจีน หรือหมอจีนท่านนั้นๆ เพื่อไปกระตุ้นปรับการทำงานของระบบร่างกายผ่านทางระบบเส้นลมปราณ หรือระบบประสาทอัตโนมัติของร่างกาย


การฝังเข็ม มีวิธีการอย่างไร?

  1. ตรวจร่างกาย กล้ามเนื้อ เพื่อหาตำแหน่งจุดฝังเข็มที่เหมาะสมในการฝังเข็มของแต่ละบุคคล

  2. ทำความสะอาดบริเวณตำแหน่งที่จะฝังเข็มด้วยแอลกอฮอล์

  3. นำเข็มสำหรับฝังเข็มโดยเฉพาะ ฝังลงบนจุดฝังเข็ม

  4. คาเข็มค้างไว้ 20-30 นาที จากนั้นนำเข็มออก (ควรจัดท่านอนให้ผ่อนคลายที่สุด เนื่องจากตอนคาเข็ม ห้ามขยับ)


การฝังเข็ม มีที่มาอย่างไร?

การฝังเข็มเริ่มต้นขึ้นเมื่อหลายพันปีก่อนจากความบังเอิญ เมื่อชาวจีนโบราณมีการทำสงคราม แล้วโดนลูกธนูยิงใส่ก็เจ็บปวด แต่เมื่อโดนธนูยิงเข้าอีกลูกกลับหายปวด จึงกลายเป็นการพยายามหาวิธีรักษาอาการปวด มีการทดลองการกดลงไปตามจุดบนร่างกาย แล้วพบว่าเมื่อกดตามจุดต่างๆของร่างกาย สามารถลดอาการปวดได้ จึงมีการพัฒนานำกระดูก หรือไม้ไผ่มาใช้เป็นตัวช่วยในการกดจุด มีการสังเกตุ และบันทึกผล หลังจากการลองผิดลองถูกมาเป็นระยะเวลานาน จนถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นตำแหน่งจุดฝังเข็ม และเข็มฝังเข็มที่ใช้กันในยุคปัจจุบันนี้


ฝังเข็ม เข็มที่ใช้เป็นยังไง? เจ็บไหม? รู้สึกอย่างไร?

เข็มฝังเข็ม เป็นเข็มตัน มีขนาดเล็ก จึงไม่ทำให้รู้สึกเจ็บเหมือนเข็มฉีดยาที่มีขนาดใหญ่กว่า
ภาพเปรียบเทียบขนาดของเข็มฝังเข็ม

เข็มที่นำมาใช้ในฝังเข็ม เป็นเข็มตัน แบบปลอดเชื้อใช้ครั้งเดียวทิ้ง (disposable) ขนาดและความยาวขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของจุดต่างๆ เข็มที่ผ่านการใช้งานแล้วจะถูกทำลายทิ้ง และไม่นำกลับมาใช้ซ้ำ

การฝังเข็มไม่เจ็บเหมือนการฉีดยา เนื่องจากเข็มเข็มที่ใช้เป็นเข็มตัน และมีขนาดเล็ก ไม่ใหญ่เท่าเข็มฉีดยา โดยทั่วไป จะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยตอนที่เข็มผ่านชั้นผิวหนังเข้าไป หลังจากนั้นจะมีความรู้สึก หนัก ชา ช็อต ตื้อ ในตอนที่ลงไปถึงตำแหน่งจุดฝังเข็ม (รู้สึกได้แรงเหมือนตอนที่นวดโดนจุด)


การฝังเข็ม กับแพทย์แผนปัจจุบัน

ในอดีตได้มีการเผยแพร่การรักษาด้วยศาตร์แพทย์แผนจีนที่สหัฐอเมริกา ช่วงแรกนั้นการรักษาด้วยแพทย์แผนจีนนั้นไม่เป็นที่ยอมรับ ชาวตะวันตกไม่เข้าใจในเรื่องของชี่(气) หรือเส้นลมปราณ (经络) แต่เมื่อได้ทดลองฝังเข็มรักษาปรากฏว่ามันได้ผลในการรักษาได้จริง จึงเริ่มสงสัยในกลไกการรักษาจึงได้เริ่มมีการทำการวิจัยศึกษากลไกการฝังเข็มเพื่ออธิบายตามหลักวิทยาศาตร์


การฝังเข็ม รักษาโรค หรืออาการอะไรบ้าง? ได้ผลจริงหรอ?

ในปี ค.ศ.2003 องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศยอมรับผลการรักษา และบรรเทาอาการด้วยการฝังเข็มในอาการต่างๆ จากการทดสอบทางคลินิก ตามเอกสาร “Acupuncture: Review and Analysis of Reports on Controlled Clinical Trials.” ดังนี้ https://chiro.org/acupuncture/FULL/Acupuncture_WHO_2003.pdf

โรค หรืออาการที่การฝังเข็มให้ผลเป็นอย่างดี

Diseases, symptoms or conditions for which acupuncture has been proved—through controlled trials—to be an effective treatment:

Adverse reactions to radiotherapy and/or chemotherapy ลดผลข้างเคียงจากการฉายแสง หรือให้คีโม

Allergic rhinitis (including hay fever) ภูมิแพ้จมูก จาม คันตา คัดจมูก น้ำมูกไหลใสๆ แพ้อากาศ

Biliary colic อาการปวดบริเวณท้องส่วนบนขวา อย่างเฉียบพลัน อาจมีคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย เนื่องจากมีนิ่วในถุงน้ำดี หรือถุงน้ำดีอักเสบ

Depression (including depressive neurosis and depression following stroke) ภาวะซึมเศร้า

Dysentery, acute bacillary โรคบิดไม่มีตัว ท้องเสียรุนแรง

Dysmenorrhoea, primary ปวดท้องประจำเดือน แบบไม่มีพยาธิสภาพทางร่างกาย คือปวดแบบตรวจแล้วไม่ชีสต์ หรืออื่นๆ

Epigastralgia, acute (in peptic ulcer, acute and chronic gastritis, and gastrospasm) โรคกระเพาะอาหารอักเสบ ปวดยอดอก ลิ้นปี่

Facial pain (including craniomandibular disorders) ปวดใบหน้า

Headache ปวดหัว

Hypertension, essential ความดันโลหิตสูง

Hypotension, primary ความดันโลหิตต่ำ

Induction of labour การกระตุ้นให้เจ็บครรภ์คลอด กระตุ้นการคลอด

Knee pain ปวดเข่า

Leukopenia ภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ

Low back pain ปวดหลังส่วนล่าง

Malposition of fetus, correction of ภาวะทารกในครรภ์อยู่ผิดตำแหน่ง

Morning sickness อาการแพ้ท้อง

Nausea and vomiting คลื่นไส้ อาเจียน อ้วก

Neck pain ปวดคอ

Pain in dentistry (including dental pain and temporomandibular dysfunction) ปวดฟัน

Periarthritis of shoulder ปวดไหล่

Postoperative pain ปวด หลังการผ่าตัด

Renal colic นิ่วในไต

Rheumatoid arthritis ปวดข้อ รูมาตอยด์

Sciatica กล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท ปวดสะโพก ชา เสียว ร้าวลงขา

Sprain ปวดข้อเท้า ข้อเท้าซ้น

Stroke โรคหลอดเลือดสมอง

Tennis elbow ปวดแขน ด้านนอก

โรค หรืออาการที่การฝังเข็มได้ผลดี แต่ต้องพิสูจน์ต่อไป

Diseases, symptoms or conditions for which the therapeutic effect of acupuncture has been shown but for which further proof is needed:

Abdominal pain (in acute gastroenteritis or due to gastrointestinal spasm) ปวดท้อง ทางเดินอาหารอักเสบ ลำไส้หดเกร็ง

Acne vulgaris เป็นสิว

Alcohol dependence and detoxification การถอนพิษ ลดการลงแดงในผู้ติดสุรา

Bell’s palsy ใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก อัมพาตใบหน้า

Bronchial asthma โรคหอบ หืด

Cancer pain ลดอาการปวดจากมะเร็ง

Cardiac neurosis แพนิค ใจสั่น อ่อนเพลีย ปวดมวนท้อง เมื่อเครียด กังวลหรือกลัว

Cholecystitis, chronic, with acute exacerbation ถุงน้ำดีอักเสบ

Cholelithiasis นิ่วในถุงน้ำดี

Competition stress syndrome ภาวะเครียด

Craniocerebral injury, closed สมองบาดเจ็บ

Diabetes mellitus, non-insulin-dependent เบาหวาน ที่ไม่มีปัญหาการหลั่งของอินซูลิน

Earache ปวดหู

Epidemic hemorrhagic fever ไข้เลือดออก

Epistaxis, simple (without generalized or local disease) เลือดกำเดาไหล โดยไม่โรคอื่นๆเกี่ยวข้อง

Eye pain due to subconjunctival injection ปวดตา

Female infertility ภาวะมีบุตรยากของสตรี

Facial spasm กล้ามเนื้อใบหน้ากระตุก

Female urethral syndrome การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะในสตรี

Fibromyalgia and fasciitis ไฟโบรมัยอัลเจีย ปวดกล้ามเนื้อ พังผืดเรื้อรัง

Gastrokinetic disturbance กระเพาะอาหารแปรปรวน

Gouty arthritis ปวดข้อ โรคเก๊าท์

Hepatitis B virus carrier status พาหะไวรัสตับอักเสบ บี

Herpes zoster (human (alpha) herpesvirus 3) งูสวัด

Hyperlipaemia ไขมันในเลือดสูง

Hypo-ovarianism รังไข่ทำงานต่ำกว่าปกติ

Insomnia นอนไม่หลับ

Labour pain ปวดท้องคลอด

Lactation, deficiency ภาวะน้ำนมแม่ไหลน้อย

Male sexual dysfunction, non-organic เสื่อมสมรรถภาพในผู้ชาย

Ménière disease น้ำในหูไม่เท่ากัน

Neuralgia, post-herpetic ปวดตามเส้นประสาท

Neurodermatitis เส้นประสาทผิวหนังอักเสบ

Obesity โรคอ้วน

Opium, cocaine and heroin dependence ลดการลงแดงในการเลิกยาเสพติด

Osteoarthritis ข้อเสื่อม

Pain due to endoscopic examination ลดปวด จากการส่องกล้องทางเดินอาหาร

Pain in thromboangiitis obliterans ปวดจากหลอดเลือดส่วนปลายตีบตัน

Polycystic ovary syndrome (Stein–Leventhal syndrome) (PCOS) ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ ไข่ไม่ตกเรื้อรัง

Post extubation in children ภาวะกล่องเสียง และเส้นเสียงบวม หลังใส่ท่อช่วยหายใจในเด็ก

Postoperative convalescence เพิ่มการฟื้นฟูในการพักฟื้นหลังผ่าตัด

Premenstrual syndrome กลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน

Prostatitis, chronic ต่อมลูกหมากอักเสบเรื้อรัง

Pruritus อาการคัน

Radicular and pseudoradicular pain syndrome ปวดร้าวตามเส้นประสาท เช่น ปวดเอวร้าวลงขา ปวดคอร้าวลงแขน

Raynaud syndrome, primary ผิดซีด มือเท้าเย็น จากการเจออากาศหนาว

Recurrent lower urinary-tract infection การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะช่วงล่าง

Reflex sympathetic dystrophy อาการเจ็บปวดมากๆ จากระบบประสาท sympathetic ทำงานผิดปกติ

Retention of urine, traumatic ปัสสาวะไม่ออก

Schizophrenia จิตเภท

Sialism, drug-induced

Sjögren syndrome ภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง ตาแห้ง ปากแห้ง

Sore throat (including tonsillitis) เจ็บคอ ทอนซิลอักเสบ

Spine pain, acute ปวดกระดูกสันหลัง

Stiff neck คอแข็ง เจ็บตึงท้ายทอย ก้มไม่ลง

Temporomandibular joint dysfunction ข้อต่อขากรรไกรไม่ทำงาน อ้า-หุบปาก หรือขยับคางไม่ได้

Tietze syndrome เจ็บหน้าอกเวลาหายใจเข้าออก จากกระดูกอ่อนอักเสบ

Tobacco dependence ลดอาการลงแดงจากการเลิกบุหรี่

Tourette syndrome เกิดการกระตุกของกล้ามเนื้อ หรือเปล่งเสียงซ้ำๆ

Ulcerative colitis, chronic ลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง ท้องเสียรุนแรง ปวดเกร็งท้อง อาจมีไข้ด้วย

Urolithiasis นิ่วในทางเดินปัสสาวะ

Vascular dementia สมองเสื่อม จากภาวะของโรคหลอดเลือดสมองอื่น

Whooping cough (pertussis) ไอกรน ไอติดๆกันหลายครั้ง แล้วก็หยุดไอ เวลาหายใจลึกๆมีเสียง วู๊ปๆ

โรค หรืออาการที่การฝังเข็มให้ผลดีในบางราย แต่เป็นทางเลือกที่คุ้มค่า เนื่องจากยากในการรักษาด้วยวิธีอื่น

Diseases, symptoms or conditions for which there are only individual controlled trials reporting some therapeutic effects, but for which acupuncture is worth trying because treatment by conventional and other therapies is difficult:

Chloasma เกลื้อนผิวหนัง

Choroidopathy, central serous จุดรับภาพตาบวมน้ำ จะเห็นภาพเล็กกว่าปกติ ภาพบิดเบี้ยว

Colour blindness ตาบอดสี

Deafness หูหนวก หูไม่ได้ยินเสียง

Hypophrenia ภาวะเศร้า แบบอยู่ๆก็เศร้า โดยไม่มีสาเหตุ

Irritable colon syndrome ลำไส้แปรปรวน

Neuropathic bladder in spinal cord injury กระเพาะปัสสาวะทำงานผิดปกติ เช่น ปัสสาวะเล็ด จากกระดูกสันหลังบาดเจ็บ

Pulmonary heart disease, chronic โรคปอด โรคทางระบบทางเดินหายใจ

Small airway obstruction หลอดลมเล็กอุดกั้น

โรค หรืออาการที่การฝังเข็มอาจให้ผลดี แต่ยังควรอยู่ในการดูแลของแพทย์แผนปัจจุบัน

Diseases, symptoms or conditions for which acupuncture may be tried provided the practitioner has special modern medical knowledge and adequate monitoring equipment:

Breathlessness in chronic obstructive pulmonary disease หายใจไม่ออก ในโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง

Coma ภาวะโคม่า

Convulsions in infants อาการชักในเด็ก

Coronary heart disease (angina pectoris) เส้นเลือดหัวใจตีบ

Diarrhea in infants and young children ท้องเสียในเด็ก

Encephalitis, viral, in children, late stage สมองอักเสบ ติดเชื้อไวรัส ในเด็ก

Paralysis, progressive bulbar and pseudobulbar อัมพาต กล้ามเนื้ออ่อนแรง เซลล์ประสาทสั่งการเสื่อม

การฝังเข็ม มีกลไกทางวิทยาศาตร์อย่างไร?

อธิบายแบบง่ายๆคือ กระตุ้นกลไกทางสรีรวิทยาที่ร่างกายพยายามปรับตัวเองเข้าสู่สมดุล ระหว่าง somatic และ autonomic nervous system ผ่านการกระตุ้นระบบ Reflix โดย ส่งสัญญาณเป็น somatic sensation (pain sensation) ในระดับ subthreshold pain (ความเจ็บปวดระดับที่การับรู้ของสมองยังไม่รู้สึกปวด) แต่สัญญาณตอนกลับมีได้หลายอย่าง ขึ้นกับตำแหน่งจุดฝังเข็ม และวิธีการกระตุ้นเข็ม เช่น sensation, motor, autonomic และ hormonal

อธิบายแบบค่อนข้างละเอียด

การลดอาการปวด

การฝังเข็มส่วนมากจะนิยมใช้ในการรักษาอาการปวด โดยเมื่อร่างกายบาดเจ็บจะมีการกระตุ้นเส้นประสาทส่งกระแสประสาทไปที่ไขสันหลัง และหลั่งสารความเจ็บปวด (Substance P) ส่งไปที่สมอง เมื่อแทงเข็มลงบนผิวหนังบนจุดฝังเข็ม จะทะลุผ่านชั้นต่างๆของเนื้อเยื่อ ก่อนจะถึงชั้นกล้ามเนื้อ โดยชั้นที่สำคัญที่สุด และมักจะถูกมองข้ามคือ ชั้นพังผืด (Fascia) โดยชั้นพังผืดนั้นเป็นเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่ประกอบด้วยคอลลาเจน อยู่ชั้นใต้ผิวหนังทำหน้าที่ ห่อหุ้ม คงสภาพ แยกชั้นกล้ามเนื้อ เส้นประสาท หลอดเลือด และอวัยวะภายใน ซึ่งเป็นชั้นที่สำคัญมาก บนพื้นผิวของ ชั้นพังผืด (Fascia) จะมีรูเล็กๆ ที่ประกอบด้วย เส้นประสาท หลอดเลือดดำ หลอดเลือดแดง รวมกันอยู่เป็น Triad อาการปวดมักจะเกิดขึ้นเมื่อ Triad ถูกบีบรัด หรือเต็มไปด้วยคอลลาเจน และแพทย์พบว่าเมื่อคอลลาเจนที่ Triad คลายออกอาการปวดจะลดลงอย่างชัดเจน และมีการหลั่งสาร Endorphin มายับยั้งการสารความเจ็บปวด (Substance P) ในไขสันหลังทำให้การส่งกระแสความเจ็บปวดไปที่สมองลดลง และจากการศึกษาในประเทศเยอรมันพบว่าตำแหน่งของรูผังผืดและ Triad มีความทับซ้อนกับจุดฝังเข็ม 361 จุด ถึง 82% จึงเป็นอีกการทดลองหนึ่งที่ยืนยันผลของการฝังเข็ม

การส่งเสริมสุขภาพ

นอกจากการฝังเข็มเพื่อลดปวดแล้ว การฝังเข็มยังสามารถทำเพื่อส่งเสริมสุขภาพได้อีกด้วย โดยเมื่อมีการฝังเข็มกระตุ้น Triad จะส่งผลให้เกิดการหลังสาร Substance P เข้าสู่ Mast cell แล้ว Mast cell หลั่งสาร Histamine Heparin และ Neurokinin ทำให้เกิดผลต่อ ความดันโลหิต การอักเสบ ความวิตกกังกล อารมณ์ และฟื้นตัวของเซลล์ สารเหล่านี้จะไปกระตุ้นเซลล์บริเวณรอบๆและส่งกระแสประสาทผ่านไขสันหลังไปที่สมอง สร้างการตอบสนองผ่านระบบประสาทซิมพาเทติก (Sympathetic Nervous System) และระบบประสาทพาราซิมพาเทติก (Parasympathetic Nervous System)

**ระบบประสาทซิมพาเทติก (Sympathetic Nervous System) มีหน้าที่ควบคุมการทำงานของอวัยวะต่างๆภายในร่างกายให้เตรียมพร้อมเผชิญอันตรายหรือภาวะฉุกเฉิน เช่น การเพิ่มระดับกลูโคสสำหรับพลังงาน เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ลดระบบการย่อยอาหาร เตรียมร่างกายสำหรับออกกำลังกาย

**ระบบประสาทพาราซิมพาเทติก (Parasympathetic Nervous System) มีหน้าที่ควบคุมการสะสมพลังงาน ควบคุมระดับการทำงานของอวัยวะภายใน หลอดเลือดส่วนต่างๆให้อยู่ในสภาพพร้อมที่จะทำงานได้ เตรียมสำหรับการพักผ่อนและการย่อยอาหารเพิ่มการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร ลดอัตราการเต้นของหัวใจ หรือเพิ่มการเคลื่อนไหวของลำไส้


การฝังเข็ม มีข้อดี - ข้อเสีย อย่างไรบ้าง?

ข้อดี ลดการใช้ยาเคมี เนื่องจากรักษาด้วยการกระตุ้นกลไกของร่างกาย

ลงไปลึกได้ถึงต้นเหตุอาการปวด ได้แม่นยำ

ข้อเสีย อาจต้องเตรียมใจสำหรับคนไข้ที่กลัวเข็มมาก

อาจมีระบม หรือรอยช้ำ หลังการรักษา 2-3 วัน

เนื่องจากเข็มมีขนาดเล็ก ถ้ามีอาการบริเวณกว้าง ควรใช้การครอบแก้วร่วมด้วย


การฝังเข็ม ควรเตรียมตัวก่อนอย่างไรบ้าง?

การเตรียมตัวก่อนการฝังเข็ม
การเตรียมตัวก่อนการฝังเข็ม
  1. ควรทานอาหารก่อนเข้ารับการฝังเข็ม 1-2 ชม. เพราะถ้าฝังเข็มในช่วงผู้ป่วยอ่อนเพลีย หิว หรือแน่นท้องมากจะมีโอกาสเมาเข็ม เวียนหัว หน้ามืด

  2. ทำใจผ่อนคลาย พักผ่อน นอนหลับอย่างเพียงพอ ในคืนก่อนมารับการฝังเข็ม

  3. สวมใส่เสื้อผ้าสบายๆ ไม่รัดแน่นเกินไป (ไม่ต้องกังวล ทางคลินิกมีชุดให้เปลี่ยน)

  4. กรุณาแจ้งแพทย์เกี่ยวกับอาการที่เป็นทั้งหมด ไม่ใช่แค่อาการที่มารักษาเท่านั้น เนื่องจากแพทย์จีนมองทั้งร่างกายเป็นหนึ่งเดียวกัน ให้แจ้งตามจริงเพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำ


ข้อควรระวังในการฝังเข็ม

แจ้งแพทย์ทุกครั้ง หากมีอาการเหล่านี้ สามารถฝังเข็ม ครอบแก้วได้ แต่อาจมีข้อจำกัดในบางกรณี
ข้อควรระวัง ของการฝังเข็ม
  1. อ่อนเพลีย หิว หรือแน่นท้องมากเกินไป

  2. ผู้ที่มีโรคหัวใจ, วิตกกังวล, กลัวเข็มมาก หรือควบคุมตนเองไม่ได้ แจ้งแพทย์ และมีญาติคอยดูแลขณะรับการรักษา

  3. ผู้ป่วยที่มีเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker Implantation) แจ้งแพทย์ก่อนการฝังเข็มทุกครั้ง

  4. สตรีมีครรภ์

  5. โรคมะเร็ง



ข้อห้ามในการฝังเข็ม

หากมีข้อห้ามเหล่านี้ ห้ามฝังเข็ม ครอบแก้วโดยเด็ดขาด อาจทานยาจีนได้ในบางกรณี
ข้อห้าม ของการฝังเข็ม
  1. มีแผลเปิดติดเชื้อในบริเวณที่จะทำการรักษา

  2. โรคหลอดเลือดที่มีความผิดปกติของระบบแข็งตัวของเลือด

  3. ผู้ป่วยที่ใช้ยาเหล่านี้ ภายใน 14 วัน

  4. สารกันเลือดแข็งตัว (Anticoagulant)

  5. ยาละลายลิ่มเลือด (rtPA)

  6. LMVH (Fraxiparin & Clexan)

  7. Pradaxa (Dabigatran )

  8. Xarelto (Rivaroxaban)

  9. Eliquis (Apixaban)

  10. Lixiana (Edoxaban)

  11. Orfarin (Warfarin)

  12. Heparin

อาการ หรือผลข้างเคียงหลังฝังเข็ม มีอะไรบ้าง? ต้องพักฟื้นไหม?

หลังฝังเข็มสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น ในบางคนอาจมีช้ำรอยเข็ม ปวดระบม หรือมีไข้หลังฝังเข็ม ประมาณ 2-3 วัน


คำแนะนำหลังการฝังเข็ม ควรทำอย่างไร?

ผลการรักษาขึ้นกับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล
คำแนะนำหลังการฝังเข็ม
  1. พักผ่อนให้เต็มที่อีก 1 วัน ไม่ควรกลับไปทำงานหนัก หรือออกกำลังกายจนเหนื่อยมากเกินไป

  2. งดอาบน้ำเป็นเวลา 2 ชม. หลังการฝังเข็ม หรือครอบแก้ว

  3. หากมีอาการเหล่านี้หลังรักษาทั่วไปอาการจะดีขึ้นเอง ภายใน 72 ชั่วโมง หากทนไม่ไหวแนะนำดังนี้

  4. มีไข้/ปวดระบม ทานยาแก้ปวดลดไข้ได้ตามปกติ

  5. รอยบวม/รอยช้ำ 24 ชั่วโมงแรก ประคบเย็น หลังจากนั้นประคบร้อน


การฝังเข็ม ควรฝังเข็มกี่ครั้ง? บ่อยแค่ไหน?

  • ถ้าเป็นอาการปวดเมื่อยทั่วไป เบื้องต้นแนะนำรักษาต่อเนื่อง 3-5 ครั้ง เพื่อดูการเปลี่ยนแปลง และระยะเวลาของผลการรักษา

  • ความถี่ของการฝังเข็มช่วงแรก 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ขึ้นกับอาการ และสภาพร่างกายคนไข้ หลังจากนั้นจะค่อยๆ เว้นห่างออกไปได้ตามอาการของแต่ละคน


การฝังเข็ม อันตรายไหม? มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง?

หากฝังเข็มด้วยความไม่ระวัง หรือไม่มีความรู้เพียงพอ อาจทำให้เข็มโดนปอด เกิดปอดรั่วได้
ตัวอย่างเคส ฝังเข็มแล้วปอดรั่ว

การฝังเข็มเป็นวิธีการรักษาที่ปลอดภัย ไม่ได้มีอันตราย หรือผลข้างเคียงรุนแรง ถ้ามีการรักษาที่ถูกต้องตามหลักของการฝังเข็ม และให้การรักษาโดยแพทย์หรือแพทย์แผนจีนได้รับใบรับอนุญาต หรือใบประกอบโรคศิลปะ

แต่ หากแพทย์ไม่มีความระมัดระวัง หรือผู้รักษาไม่ได้มีความรู้ตามหลักการฝังเข็ม อาจมีภาวะปอดรั่ว เข็มงอ เข็มหัก แท้งบุตร เกิดขึ้นได้ ตามที่เห็นตามข่าว โซเชี่ยว หรือ pantip เกิดขึ้นได้


ควรฝังเข็ม ที่ไหนดี?

อย่างน้อยที่สุดควรเป็นสถานพยาบาลที่มีใบอนุญาตสถานพยาบาล และผู้รักษาต้องมีใบอนุญาติอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อป้องกันภาวะเสี่ยงต่างๆที่อาจเกิดขึ้น

ที่พังงาคลินิก จำกัดจำนวนคนไข้ต่อวัน เพื่อให้มีเวลาในการตรวจ ซักประวัติ รักษาเป็นไปอย่างละเอียดรอบคอบ และไม่ให้แพทย์จีนมีภาระงานที่หนักเกินไป และทีมแพทย์จีนของเรามีประสบการณ์การรักษา และอบรมความรู้ต่างๆอยู่เสมอ

ปล.อย่าลืมดูรูป และตราประทับ ในใบผู้ปฏิบัติงานสีน้ำเงินด้วยนะ ผู้ที่ทำการรักษาให้เป็นคนเดียวกันกับรูปในใบอนุญาตไหม (ผู้ปฏิบัติงานในคลินิกทุกคนจะต้องมีใบสีน้ำเงินเป็นของตัวเอง)

ผู้ปฏิบัติทุกคนในคลินิกต้องมีใบนี้ คนในรูป กับคนที่ทำการรักษาต้องตรงกัน
รูปใบผู้ปฏิบัติงาน (แบบส.พ.6)

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

หมอไสว มาลยเวช(ไพศาล มาลาพันธุ์) .ตำราแทงเข็ม รมยา.--กรุงเทพฯ:สุขภาพใจ,2553.

ศาสตราจารย์ คลินิค น.พ.อดุลย์ รัตนวิจิตราศิลป์ .ฝังเข็มกับดุลยภาพ.--กรุงเทพฯ,2564.

วิทิต วัณณาวิบูล . ประวัติการแพทย์จีน.--พิมพ์ครั้งที่4--กรุงเทพฯ:หมอชาวบ้าน,2548.



bottom of page